สมุนไพรน่ารู้ | สมุนไพรคลายหนาว
1 ปีที่ผ่านมา
สมุนไพรน่ารู้ | สมุนไพรคลายหนาว
สมุนไพรใกล้ตัวที่มีฤทธิ์ช่วยปรับสมดุลของร่างกาย ให้พร้อมรับกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง และสามารถช่วยแก้หนาวได้ เช่น
#พริก มีสารแคปไซซิน ซึ่งเป็นสารที่ให้ความเผ็ดร้อนให้ความอบอุ่น จะช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิต และจะช่วยให้อาการหนาวชาบริเวณปลายมือและปลายเท้าลดลง
ในพริกยังประกอบไปด้วยวิตามินอื่นๆ อีก เช่น วิตามินซี วิตามินเอ ที่ช่วยเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระให้แก่ร่างกาย โดยพริกสามารถใส่ในเมนูอาหารได้หลากหลาย เพื่อเพิ่มรสชาติเผ็ดร้อน แต่พริกมีฤทธิ์ระคายเคืองต่อเนื้อเยื่อกระเพาะอาหาร ดังนั้น คนที่เป็นโรคกระเพาะอาหารอยู่แล้วก็ไม่ควรกินพริกหรืออาหารรสเผ็ดมาก
#ขิง มีฤทธิ์ร้อน จะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดในร่างกาย ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันดีขึ้น ลดการเกิดไข้หวัด
ตามตำราแพทย์พื้นฐาน มีการใช้ขิงทั้งสดและแห้ง เพื่อแก้หวัด แก้ปวดหัว และแก้หนาว สำหรับวิธีการรับประทาน สามารถนำขิงมารับประทานได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะนำไปชงดื่มเป็นชาร้อนๆ จะเติมในอาหารที่รับประทาน รับประทานในวันที่อากาศหนาวๆ ก็สามารถช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกายได้ทั้งสิ้น
#ข่า เป็นสมุนไพรที่มีรสร้อนเหมือนขิง มีสรรพคุณช่วยแก้ไอ แก้หวัด ลดน้ำมูก แก้หอบหืด จึงเหมาะมากที่จะกินข่าในหน้าหนาว เพราะไม่เพียงแต่ช่วยคลายหนาวได้เท่านั้น แต่ข่ายังมีสรรพคุณบรรเทาอาการหวัด คัดจมูก น้ำมูกไหลได้อีกด้วย
คนไทยมีการกินข่าในหลายรูปแบบ เช่น ใช้หัวข่าใส่ในต้มยำ ต้มข่า ต้มแซ่บ หรือใช้เป็นเครื่องเทศในเครื่องแกง น้ำพริกต่างๆ เป็นต้น
#กะเพรา เป็นผักสวนครัวกลิ่นหอม มีรสเผ็ดร้อนในตัว มีกลิ่นฉุนที่ดมแล้วโล่งไปทั้งจมูกและคอ อีกทั้ง กะเพรา ยังเป็นผักที่หาง่าย ราคาถูก ทำได้ทั้งเมนูผัดกะเพรา ต้มยำ ต้มแซ่บ ช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกายจากฤทธิ์ร้อนในตัวใบกะเพรา
#พริกไทย จัดเป็นเครื่องเทศ และสมุนไพรที่มีรสร้อน ช่วยย่อยอาหารและขับเหงื่อทำให้ร่างกายอบอุ่นขึ้น ตามตำราแพทย์ตะวันออกระบุว่า ในช่วงที่อากาศหนาวควรเสริมพริกไทยเพิ่มเติมในอาหาร จะช่วยให้ร่างกายอบอุ่น และเพิ่มภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย
โดยสามารถกินทั้งพริกไทยป่น หรือพริกไทยสดก็ได้ โดยถ้าเป็นพริกไทยป่นควรใช้ประมาณครึ่งช้อนชาต่อหนึ่งมื้ออาหาร ผสมลงไปในอาหารแต่ละมื้อ จะช่วยให้ร่างกายมีภูมิต้านทานต่อความหนาว เกิดความอบอุ่นภายในร่างกายให้หายหนาวสั่น แต่ไม่ควรรับประทานพริกไทยมากจนเกินไป เพราะอาจทำให้เป็นพิษต่อระบบต่างๆ ของร่างกาย เมื่อกินในปริมาณมาก และติดต่อกันหลายวัน
#กระชาย เป็นสมุนไพรที่ให้รสเผ็ดร้อน เมื่อทานไปแล้วสามารถทำให้อุณหภูมิในร่างกายของเราสูงขึ้นได้ เหง้าของกระชายรักษาอาการแน่น จุกเสียด น้ำมันหอมระเหยในกระชายมีฤทธิ์ขับลม
ดังนั้น ถ้าต้องการให้ร่างกายอบอุ่นขึ้น การรับประทานกระชาย จึงถือเป็นสมุนไพรอีกตัวเลือกหนึ่งที่หาไม่ยาก และนำไปประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู ทั้งใช้เป็นเครื่องเทศ หรือเป็นส่วนประกอบในเมนูอาหารต่างๆ เช่น ผัดฉ่า แกงป่า เป็นต้น
นอกจากนี้ ควรทานผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เช่น ส้ม ฝรั่ง จะช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ควรออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ รักษาความอบอุ่นของร่างกาย สวมเสื้อผ้าหนาๆ
ควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทไขมันสูง เพราะอาหารมันๆ ทอดๆ อาจเพิ่มโอกาสการเกิดเสมหะ หรือกระตุ้นการเกิดเสมหะในคนที่มีอาการหวัดอยู่แล้ว รวมถึง การดื่มแอลกอฮอล์แก้หนาวก็ไม่สมควรทำเช่นกัน เพราะการดื่มเหล้าแก้หนาวจะยิ่งเร่งให้ร่างกายสูญเสียความร้อน ส่วนที่ดื่มแล้วรู้สึกตัวอุ่นขึ้นนั้น เพราะหลอดเลือดฝอยที่อยู่ใต้ผิวหนังเกิดการขยายตัวอย่างหนัก เพื่อให้ความร้อนในร่างกายถูกระบายออกมา ซึ่งเมื่อความร้อนในร่างกายถูกระบายออกมามากๆ จะทำให้อุณหภูมิในร่างกายลดต่ำลงกว่าปกติ เมื่อเราหลับ ร่างกายที่สัมผัสกับอากาศเย็นเป็นเวลานานจึงเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้
ข้อมูลอ้างอิง
ฉัตรภา หัตถโกศล. อบอุ่นหน้าหนาวกับสมุนไพรพื้นบ้าน [อินเทอร์เน็ต].
สมุนไพรใกล้ตัวที่มีฤทธิ์ช่วยปรับสมดุลของร่างกาย ให้พร้อมรับกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง และสามารถช่วยแก้หนาวได้ เช่น
#พริก มีสารแคปไซซิน ซึ่งเป็นสารที่ให้ความเผ็ดร้อนให้ความอบอุ่น จะช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิต และจะช่วยให้อาการหนาวชาบริเวณปลายมือและปลายเท้าลดลง
ในพริกยังประกอบไปด้วยวิตามินอื่นๆ อีก เช่น วิตามินซี วิตามินเอ ที่ช่วยเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระให้แก่ร่างกาย โดยพริกสามารถใส่ในเมนูอาหารได้หลากหลาย เพื่อเพิ่มรสชาติเผ็ดร้อน แต่พริกมีฤทธิ์ระคายเคืองต่อเนื้อเยื่อกระเพาะอาหาร ดังนั้น คนที่เป็นโรคกระเพาะอาหารอยู่แล้วก็ไม่ควรกินพริกหรืออาหารรสเผ็ดมาก
#ขิง มีฤทธิ์ร้อน จะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดในร่างกาย ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันดีขึ้น ลดการเกิดไข้หวัด
ตามตำราแพทย์พื้นฐาน มีการใช้ขิงทั้งสดและแห้ง เพื่อแก้หวัด แก้ปวดหัว และแก้หนาว สำหรับวิธีการรับประทาน สามารถนำขิงมารับประทานได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะนำไปชงดื่มเป็นชาร้อนๆ จะเติมในอาหารที่รับประทาน รับประทานในวันที่อากาศหนาวๆ ก็สามารถช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกายได้ทั้งสิ้น
#ข่า เป็นสมุนไพรที่มีรสร้อนเหมือนขิง มีสรรพคุณช่วยแก้ไอ แก้หวัด ลดน้ำมูก แก้หอบหืด จึงเหมาะมากที่จะกินข่าในหน้าหนาว เพราะไม่เพียงแต่ช่วยคลายหนาวได้เท่านั้น แต่ข่ายังมีสรรพคุณบรรเทาอาการหวัด คัดจมูก น้ำมูกไหลได้อีกด้วย
คนไทยมีการกินข่าในหลายรูปแบบ เช่น ใช้หัวข่าใส่ในต้มยำ ต้มข่า ต้มแซ่บ หรือใช้เป็นเครื่องเทศในเครื่องแกง น้ำพริกต่างๆ เป็นต้น
#กะเพรา เป็นผักสวนครัวกลิ่นหอม มีรสเผ็ดร้อนในตัว มีกลิ่นฉุนที่ดมแล้วโล่งไปทั้งจมูกและคอ อีกทั้ง กะเพรา ยังเป็นผักที่หาง่าย ราคาถูก ทำได้ทั้งเมนูผัดกะเพรา ต้มยำ ต้มแซ่บ ช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกายจากฤทธิ์ร้อนในตัวใบกะเพรา
#พริกไทย จัดเป็นเครื่องเทศ และสมุนไพรที่มีรสร้อน ช่วยย่อยอาหารและขับเหงื่อทำให้ร่างกายอบอุ่นขึ้น ตามตำราแพทย์ตะวันออกระบุว่า ในช่วงที่อากาศหนาวควรเสริมพริกไทยเพิ่มเติมในอาหาร จะช่วยให้ร่างกายอบอุ่น และเพิ่มภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย
โดยสามารถกินทั้งพริกไทยป่น หรือพริกไทยสดก็ได้ โดยถ้าเป็นพริกไทยป่นควรใช้ประมาณครึ่งช้อนชาต่อหนึ่งมื้ออาหาร ผสมลงไปในอาหารแต่ละมื้อ จะช่วยให้ร่างกายมีภูมิต้านทานต่อความหนาว เกิดความอบอุ่นภายในร่างกายให้หายหนาวสั่น แต่ไม่ควรรับประทานพริกไทยมากจนเกินไป เพราะอาจทำให้เป็นพิษต่อระบบต่างๆ ของร่างกาย เมื่อกินในปริมาณมาก และติดต่อกันหลายวัน
#กระชาย เป็นสมุนไพรที่ให้รสเผ็ดร้อน เมื่อทานไปแล้วสามารถทำให้อุณหภูมิในร่างกายของเราสูงขึ้นได้ เหง้าของกระชายรักษาอาการแน่น จุกเสียด น้ำมันหอมระเหยในกระชายมีฤทธิ์ขับลม
ดังนั้น ถ้าต้องการให้ร่างกายอบอุ่นขึ้น การรับประทานกระชาย จึงถือเป็นสมุนไพรอีกตัวเลือกหนึ่งที่หาไม่ยาก และนำไปประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู ทั้งใช้เป็นเครื่องเทศ หรือเป็นส่วนประกอบในเมนูอาหารต่างๆ เช่น ผัดฉ่า แกงป่า เป็นต้น
นอกจากนี้ ควรทานผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เช่น ส้ม ฝรั่ง จะช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ควรออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ รักษาความอบอุ่นของร่างกาย สวมเสื้อผ้าหนาๆ
ควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทไขมันสูง เพราะอาหารมันๆ ทอดๆ อาจเพิ่มโอกาสการเกิดเสมหะ หรือกระตุ้นการเกิดเสมหะในคนที่มีอาการหวัดอยู่แล้ว รวมถึง การดื่มแอลกอฮอล์แก้หนาวก็ไม่สมควรทำเช่นกัน เพราะการดื่มเหล้าแก้หนาวจะยิ่งเร่งให้ร่างกายสูญเสียความร้อน ส่วนที่ดื่มแล้วรู้สึกตัวอุ่นขึ้นนั้น เพราะหลอดเลือดฝอยที่อยู่ใต้ผิวหนังเกิดการขยายตัวอย่างหนัก เพื่อให้ความร้อนในร่างกายถูกระบายออกมา ซึ่งเมื่อความร้อนในร่างกายถูกระบายออกมามากๆ จะทำให้อุณหภูมิในร่างกายลดต่ำลงกว่าปกติ เมื่อเราหลับ ร่างกายที่สัมผัสกับอากาศเย็นเป็นเวลานานจึงเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้
ข้อมูลอ้างอิงฉัตรภา หัตถโกศล. อบอุ่นหน้าหนาวกับสมุนไพรพื้นบ้าน [อินเทอร์เน็ต]. 
สินค้าในตะกร้า ({{total_num}} รายการ)
ขออภัย ขณะนี้ยังไม่มีสินค้าในตะกร้า
ราคาสินค้าทั้งหมด
฿ {{price_format(total_price)}}
- ฿ {{price_format(discount.price)}}
ราคาสินค้าทั้งหมด
{{total_quantity}} ชิ้น
฿ {{price_format(after_product_price)}}
ราคาไม่รวมค่าจัดส่ง
➜ เลือกซื้อสินค้าเพิ่ม