ยาครีมพญายอ อภัยภูเบศร ปริมาตรสุทธิ 10 กรัม
ยาแผนโบราณ ยาใช้ภายนอก For External Use Only เลขทะเบียนที่ G 688/45
เอกสารกำกับยา:
ครีมพญายอ อภัยภูเบศร
ส่วนประกอบสำคัญ:
ในครีม 100 กรัม มีสารสกัดพญายอ 20 มล. สกัดจากพญายอ 400 กรัม
สรรพคุณ:
บรรเทาอาการของโรคเริม งูสวัด
วิธีใช้:
ทาบางๆ บริเวณที่มีอาการ วันละ 3-5 ครั้ง
อายุผลิตภัณฑ์:
2 ปี (นับจากวันผลิต)
ข้อห้ามใช้/ข้อควรระวัง: ไม่มีรายงานข้อห้ามใช้และข้อควรระวัง
อาการไม่พึงประสงค์: ไม่มีรายงานอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา
ข้อมูลความเป็นพิษ: ไม่เกิดพิษในสัตว์ทดลอง
ข้อเสนอแนะ: ครีมพญายอ ยาหม่องพญายอ และคาลาไมน์พญายอ ห้ามใช้บริเวณริมฝีปากและภายในช่องปาก
--------------------------------------------
เป็นเริม เป็นงูสวัด นึกถึงครีมพญายอ ประสิทธิภาพเหนือกว่ายาแผนปัจจุบัน แนะนำให้ทาบ่อยๆวันละ 4-5 ครั้ง จะทำให้แผลตกสะเก็ดภายใน 3 วัน
#กรณีเป็นรุนแรง หรือเป็นใกล้อวัยวะสำคัญ เช่น ดวงตา แนะนำให้พบแพทย์แผนปัจจุบันร่วมด้วย จำเป็นต้องรับประทานยาต้านไวรัส
#กรณีเป็นเริม งูสวัด บ่อยๆ ต้องดูแลรักษาร่างกายให้แข็งแรง หรือทานสมุนไพรที่ผลเพิ่มภูมิคุ้มกัน เช่น หญ้าปักกิ่ง
พญายอ หรือพญาปล้องทอง หรือ เสลดพังพอนตัวเมีย เป็นสมุนไพรพื้นบ้านของไทยที่ใช้รักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก ผดผื่นคัน อาการแพ้และอักเสบจากแมลงกัดต่อย คางทูม และรักษาเริม งูสวัด เรียกได้ว่าเป็นสมุนไพรที่เป็นราชาด้านการรักษาโรคผิวหนัง วิธีใช้ดั้งเดิมนั้นจะนำใบสดมาตำให้ละเอียด อาจผสมเหล้าขาวหรือน้ำซาวข้าว แล้วนำมาพอกบริเวณผิวหนังที่เป็น บ้างก็ดื่มน้ำที่คั้นและกรองออกมาด้วย
ปัจจุบันมีการศึกษาวิจัยยืนยันประสิทธิภาพของพญายอ หลายการศึกษา โดยเฉพาะฤทธิ์ต้านเชื้อเริมและงูสวัด
สารสกัดจากใบพญายอ พบอนุพันธ์ในกลุ่มเบตากาแลคโตซิลไดกลีเซอไรด์ (Beta-galactosyl diglycerides) ที่มีฤทธิ์ต้านเชื้อ Herpes simplex virus (HSV) ทั้งชนิด HSV-1 และ HSV-2 ซึ่งเป็นไวรัสที่ทำให้เกิดโรคเริม รวมถึงมีฤทธิ์ต้านเชื้อ Varicella zoster virus (VZV) ซึ่งเป็นไวรัสที่ทำให้เกิดโรคอีสุกอีใสและงูสวัด นอกจากนี้ยังแสดงฤทธิ์ในการต้าน การอักเสบและลดอาการปวดอีกด้วย
จากการวิเคราะห์รายงานการวิจัยทางคลินิกเพื่อศึกษาประสิทธิผลของครีมสารสกัดพญายอในการรักษาโรคเริมและงูสวัด เปรียบเทียบกับยาหลอก ในผู้ป่วยรวม 286 ราย ด้วยวิธีทบทวนวรรณกรรมอย่างเป็นระบบ (systematic review) และวิธีการวิเคราะห์อภิมาน (meta-analysis) ในจำนวนนี้มีผู้ป่วย 151 รายที่ได้รับครีมพญายอในการศึกษาประสิทธิผลใน โรคเริมที่อวัยวะเพศ พบว่าการใช้ครีมพญายอ ให้ผลดีกว่ายาหลอกอย่างชัดเจนในการทำให้แผลตกสะเก็ดได้ในวันที่ 3 หลังใช้ยา และแผลหายอย่างสมบูรณ์ในวันที่ 7 ในทำนองเดียวกัน ในการศึกษาประสิทธิภาพของการรักษาการติดเชื้องูสวัดด้วยสารสกัดพญายอ พบว่าการใช้ครีมพญายอ ให้ผลดีกว่ายาหลอกอย่างชัดเจน โดยใช้สารสกัดพญายอทาวันละ 5 ครั้ง เป็นระยะเวลา 7-14 วัน จนกว่ารอยโรคจะหาย พบว่ารอยโรคเริ่มตกสะเก็ดภายใน 3 วัน และภายใน 7-10 วัน อาการของกลุ่มที่รักษาด้วยสารสกัดพญายอมีอาการดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับยาหลอก อีกทั้งระดับความเจ็บปวดในกลุ่มที่ให้สารสกัดพญายอลดลงได้เร็วกว่ากลุ่มยาหลอก จากการศึกษาไม่พบผลข้างเคียงจากการใช้สารสกัดพญายอ
จากการวิเคราะห์รายงานการวิจัยทางคลินิกเพื่อศึกษาประสิทธิผลของครีมสารสกัดพญายอในการรักษาโรคเริม และงูสวัด เปรียบเทียบกับครีม acyclovir ด้วยวิธีการวิเคราะห์อภิมาน (meta-analysis) พบว่าการใช้สารสกัดพญายอ ความเข้มข้น 5% ทาวันละ 4 ครั้ง ในการรักษาโรคเริมที่อวัยวะเพศ เปรียบเทียบกับยาครีม acyclovir และยาหลอก โดยประเมินระยะเวลาตกสะเก็ดใน 3 วัน และอาการหายดีใน 7 วัน พบว่าสารสกัดพญายอมีประสิทธิภาพดีกว่า ยาหลอกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติและเมื่อเปรียบเทียบกับยาครีม acyclovir แล้วพบว่ามีประสิทธิภาพไม่แตกต่างกัน
จะเห็นได้ว่าจากการศึกษาที่มีมาก่อนหน้า ครีมพญายอมีประสิทธิภาพในการรักษาเริมและงูสวัด และมีประสิทธิภาพ ไม่แตกต่างจากยาแผนปัจจุบันคือยาครีม
acyclovir ในแง่ของข้อดีของครีมพญายอ มีเหนือกว่ายาแผนปัจจุบัน คือ
1. ราคาถูก ช่วยให้ประเทศประหยัดเงินตรา เพื่อทดแทนการใช้ยาแผนปัจจุบัน
2. เป็นการส่งเสริมสมุนไพรไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล
3. สารสกัดพญายอ นอกจากจะมีฤทธิ์ต้านเชื้อไวรัสเริมและงูสวัดแล้ว ยังมีฤทธิ์การต้านการอักเสบและลดอาการปวด อีกด้วย สอดคล้องกับการศึกษาหนึ่ง ที่ทำการศึกษาในผู้ป่วยโรคเริมชนิดเป็นซ้ำ ด้วยยาจากสารสกัดพญายอและยาครีม acyclovir พบว่ากลุ่มที่ได้รับยาจากสารสกัดพญายอไม่ทำให้แผลเกิดการอักเสบระคายเคือง ในขณะที่ยาครีม acyclovir ทำให้แสบ
4. สารสกัดใบพญายอออกฤทธิ์ต่อระบบภูมิคุ้มกันของมนุษย์ในหลอดทดลอง โดยมีฤทธิ์กระตุ้นการปลดปล่อย interleukin-4 (IL-4) จาก peripheral blood mononuclear cells ในขณะที่ยา acyclovir ไม่มีฤทธิ์ดังกล่าว
5. สารสกัดใบพญายอ มีกลไกการออกฤทธิ์กับไวรัสโดยตรง ทำให้สามารถใช้ได้ทุกช่วงของโรค ขณะที่ยาครีม acyclovir ยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัส ซึ่งจะออกฤทธิ์ได้ดีเมื่อเริ่มติดเชื้อ โดยพบกลไกการออกฤทธิ์ของสารสกัดพญายอสามารถยับยั้งกระบวนการการติดเชื้อไวรัสตั้งแต่ก่อนไวรัสเข้าสู่เซลล์ (pre-viral entry) และยังทำให้เชื้อตาย (inactivation activity) ทำให้เชื้อไม่สามารถเข้าไปเจริญเติบโตในเซลล์ได้ และพบว่าเมื่อเพิ่มความเข้มข้นมากขึ้นยิ่งทำลายเชื้อไวรัสได้มากขึ้น
ยาพญายอถูกบรรจุอยู่ในบัญชียาหลักสมุนไพรแห่งชาติ ในรูปแบบต่างๆ ได้แก่
1. ยาครีม บรรเทาอาการของ เริมและงูสวัด
2. สารละลาย (สำหรับป้ายปาก) รักษาแผลในปาก (aphthous ulcer) แผลจากการฉายรังสีและเคมีบำบัด
3. โลชัน บรรเทาอาการ ผดผื่นคัน ลมพิษ ตุ่มคัน
4. ยาขี้ผึ้ง บรรเทาอาการอักเสบ ปวด บวมจากแมลงกัดต่อย
5. ทิงเจอร์พญายอ บรรเทาอาการของเริม และงูสวัด
ปัจจุบันโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ได้บรรจุยาพญายอ ในบัญชียาโรงพยาบาล จำนวน 4 รูปแบบ คือ ยาครีม กลีเซอรีน ยาขี้ผึ้ง และคาลาไมด์ ใน 4 รูปแบบนี้ รูปแบบยาครีมถือว่าเป็นรูปแบบที่ใช้ทดแทนการใช้ยาแผนปัจจุบันอย่างสมบูรณ์ คือ หากผู้ป่วยมาด้วยการติดเชื้อไวรัสเริม หรืองูสวัด แพทย์จะสั่งจ่ายยาครีมพญายอเพื่อรักษา ทดแทนการใช้ยาครีม acyclovir ซึ่งไม่มีอยู่ในบัญชียาโรงพยาบาล