สรรพคุณสมุนไพรกวาวเครือขาว
|
|

|
|
ชื่อสมุนไพร : กวาวเครือขาว ชื่อสามัญ (ชื่อภาษาอังกฤษ) : Pueraria mirifica หรือ White Kwao Krua ชื่ออื่น : กวาวเครือ, กวาว, ทองเครือ, ทองกวาว, กวาวหัว ตามจอมทอง, จานเครือ, โพะตะกู, ตานเคือ, ตานเครือ ชื่อวิทยาศาสตร์ : Pueraria candollei Graham ex Benth. var mirifica (Airy Shaw et Suvat.) Niyomdham., Pueraria candollei Graham ex Benth. var candollei ชื่อวงศ์ : กวาวเครือ, กวาว, ทองเครือ, ทองกวาว, กวาวหัว ตามจอมทอง, จานเครือ, โพะตะกู, ตานเคือ, ตานเครือ ส่วนที่ใช้ : หัว ราก ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : เป็นไม้เถาเนื้อแข็งอายุหลายปี จัดเป็นไม้เลื้อย หรือพืชในตระกูลถั่ว โดยเป็น 1 ใน 4 ชนิดของกวาวเครือทั้งหมด * หัว อยู่ใต้ดิน ลักษณะกลม มีหลายขนาด ถ้าหัวที่มีอายุมากอาจหนักถึง 20 กิโลกรัม เมื่อเอามีดผ่าออกจะมียางสีขาวคล้ายน้ำนม เนื้อ ในจะมีสีขาวคล้ายมันแกว เนื้อเปราะ มีเส้นมาก ส่วนหัวเล็ก เนื้อในจะละเอียด มีน้ำมาก และนิยมเพาะปลูกหรือพบมากทางภาคเหนือและอีสานของประเทศ * ใบ ประกอบแบบขนนก มีใบย่อย 3 ใบ เรียงสลับ ใบย่อยรูปไข่กว้าง ใบย่อยคู่ข้างเบี้ยว กว้าง 7-13 ซม. ยาว 13-19 ซม. ปลายใบกวาวเครือขาวเรียวแหลมโคนใบรูปลิ่ม หรือตัด * ดอกช่อแยกแขนง ออกที่ซอกใบ และปลายกิ่ง กวาวเครือขาว ยาวได้ถึง 29 ซม. ดอกรูปดอกถั่ว สีม่วง ผลเป็นฝัก รูปขอบขนาน กว้างได้ถึง 6 มม. ยาวได้ถึง 2.5 ซม. ผิวมีขนเมล็ดรูปคล้ายโล่ แบน สีม่วงแกมน้ำตาล |
|
สรรพคุณกวาวเครือขาว
กวาวเครือขาว เป็นสมุนไพรไทยที่มีประโยชน์อย่างมากสำหรับเพศหญิง แต่สำหรับเพศชายก็สามารถรับประทานได้เช่นกัน เพราะมีสรรพคุณช่วยทำให้ร่างกายกระชุ่มกระชวย และเป็นยาอายุวัฒนะ ซึ่งตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข จัดให้กราวเครือขาวเป็นตัวยาชนิดหนึ่งในตำรับยาบำรุงร่างกาย และได้รับอนุญาตให้ขึ้นทะเบียนเป็นตำรับยาแผนโบราณ และยาแผนโบราณสามัญประจำบ้าน ซึ่งสามารถรับประทานได้โดยไม่ต้องมีใบสั่งจากแพทย์ |
|
1. กวาวเครือขาวช่วยบำรุงผิวพรรณให้เต่งตึง เปล่งปลั่งสดใสนุ่มนวลเรียบเนียน 2. กวาวเครือขาวสมุนไพรอายุวัฒนะ มีส่วนช่วยในการชะลอความแก่ 3. กวาวเครือขาวช่วยลดการเกิดริ้วรอยแห่งวัย และลดเลือนริ้วรอย บริเวณผิวหน้า และผิวกาย 4. ช่วยขยายทรวงอก ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น แก้ปัญหาทรวงอกหย่อนคล้อยให้กลับมาเต่งตึงเหมือนเดิม 5. เพิ่มปริมาณเส้นผม ช่วยให้เส้นผมดกดำ ปรับผมขาวให้กลับดำ และลดการหลุดร่วงของเส้นผม 6. ช่วยลดความันบนใบหน้า ช่วยลดสิว ฝ้า กระ ทำให้ใบหน้าขาวเนียนสดใส 7. กวาวเครือขาวช่วยสมานริ้วรอยบนใบหน้าจากความหยาบกร้าน 8. กวาวเครือขาวช่วยเพิ่มความกระชุ่มกระชวยให้กับร่างกาย 9. ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย แก้อาการอ่อนเพลีย เมื่อยล้าของร่างกาย ทำให้นอนหลับสบาย 10. กวาวเครือขาวบำรุงสมอง ช่วยให้ความจำดีขึ้น 11. สำหรับผู้ที่ผอมแห้ง เมื่อรับประทานกวาวเครือขาวจะช่วยทำให้ดูอ้วนท้วนสมบูรณ์ขึ้น 12. กวาวเครือขาวป้องกันโรคตาฟาง และต้อกระจก 13. กวาวเครือขาวช่วยบำรุงโลหิต ทำให้มีพลัง 14. กวาวเครือขาวช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน 15. กวาวเครือขาวช่วยบำรุงอวัยวะสืบพันธุ์ให้เจริญ 16. กวาวเครือขาวใช้เป็นฮอร์โมนทดแทนในเพศหญิงได้ ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน 17. ช่วยรักษาอาการหมดประจำเดือนในวัยก่อน และหลังหมดประจำเดือน ที่มีอาการบกพร่องของฮอร์โมนเอสโตรเจน 18. กวาวเครือขาว ช่วยทำให้ช่องคลอดของหญิงวัยทองไม่แห้ง 19. มีส่วนช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งเต้านม และมะเร็งมดลูก 20. แก้อาการปวดประจำเดือน แก้ปัญหาประจำเดือนมาไม่ปกติ
|
|
 หัวกวาวเครือขาว
 กวาวเครือขาว
|
|
21. ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย 22. มีส่วนช่วยลดและรักษาอาการ vasomotor (อาการร้อนวูบวาบ เหงื่อออกกลางคืน) 23. สำหรับผู้ที่เคยมีบุตรแล้วจะช่วยทำให้ช่องคลอดกระชับขึ้น และช่วยลดปัญหาหน้าท้อง สะโพก ต้นขาลายได้ 24. สำหรับผู้ที่มีบุตรยาก เชื่อว่าจะทำให้มีบุตรง่ายขึ้น
|
|
งานวิจัยกวาวเครือขาว
นัก วิจัยหลายสถาบันพบว่า กวาวเครือขาวมีประสิทธิภาพในทางคลีนิค สามารถใช้ทดแทนฮอร์โมนเพศหญิงในวัยหมดประจำเดือนได้ และมีแนวโน้มว่าจะนำไปใช้เสริมทรวงอกให้เพิ่มขนาด รวมทั้งรักษาอัลไซเมอร์ได้ เพราะวิจัยพบว่า สารสกัดจากกวาวเครือทำให้เกิดการงอกใหม่ของเซลล์สมองได้
สำหรับความเป็นพิษระยะยาวนั้น มีนักวิจัยไปจดสิทธิบัตรกวาวเครือขาวจนเป็นข่าวโด่งดัง ทำให้นักวิชาการกระทรวงสาธารณสุข กังวลมากว่าบริโภคเข้าไปแล้วอาจจะมีพิษเรื้อรังระยะยาวที่ทำให้เป็นมะเร็ง เต้านมได้นั้น สถาบันมะเร็งแห่งชาติซึ่งได้ทดลองมาระยะหนึ่งแล้ว ได้ข้อสรุปว่า กวาวเครือดังกล่าวไม่ทำให้ เกิดมะเร็ง และสอดคล้องกับการวิจัยของโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ที่วิจัยพบผลว่ากวาวเครือขาวกลับออกฤทธิ์ป้องกันมะเร็งทรวงอกได้ด้วย"
|
ข้อควรระวังการใช้กวาวเครือขาว
1. ห้ามคนหนุ่มสาวรับประทาน (อายุต่ำกว่า 25 ปี) 2. ผู้ได้รับยาส่วนใหญ่มีอาการข้างเคียง ได้แก่ อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน เต้านมขยายขนาด 3. แพทย์พื้นบ้านแนะนำไม่ควรรับประทานมาก หรือต่อเนื่องนานเกินไป จะทำให้มีอาการเต้านมโตเกินไป เต้านมดานแข็งเป็นก้อน และอาจทำให้เกิดเป็นลมสาน (เนื้องอกหรืออาจเป็นมะเร็ง) ที่เต้านมได้ 4. ถ้ารับประทานมากจะทำให้เกิดอาการท้องอืดอย่างชัดเจน หมอพื้นบ้านจึงต้องให้รับประทานสมุนไพรที่มีส่วนรักษาท้องอืดร่วมด้วย เช่น ตรีกฏุก พริกไทย
|
|
ที่มา : 1. คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี 2. หมอชาวบ้าน 3หนังสือพิมพ์มติชน วันอังคารที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2544 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8572 4. กรมวิชาการเกษตร สำนักวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพ ศูนย์ประสานงานสารนิเทศ สาขาเกษตรศาสตร์ |
|