ถ้าพูดถึงสมุนไพรตัวหนึ่งที่มีชื่ออย่างไพเราะเพราะพริ้งในภาษาจีนว่า "ซวนซิเหลียน" แปลว่า ดอกบัวอยู่ในหัวใจ ท่านผู้อ่าน
หลายท่านอาจนึกไม่ถึงว่าสมุนไพรตัวนี้ คือ ฟ้าทะลายโจร ในบ้านเรา ซึ่งได้รับการกล่าวขานถึงอย่างมาก ในช่วงที่มีการระบาด
ของไข้หวัด2009 สมุนไพร ฟ้าทะลายโจร ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ว่าเป็นสมุนไพรที่ช่วยบรรเทา
อาการหวัด และเสริมภูมิต้านทานดีกว่าการใช้ยาปฏิชีวนะในคนที่เป็นหวัดบ่อยๆ ร้อนในบ่อยๆ เนื่องจากร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ
ภูมิต้านทานอ่อนลง การรับประทานสมุนไพรฟ้าทะลายโจรจะช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ทำให้ไม่เป็นหวัดง่าย ร้อนในจะหายไป และ
สมุนไพรฟ้าทะลายโจรดีกว่ายาปฏิชีวนะ ตรงที่ไม่ทำให้เกิดการดื้อยา สำหรับงานวิจัยทางคลินิกเกี่ยวกับประสิทธิผลในการรักษา
หรือป้องกันอาการหวัด พบว่า การรับประทานยาเม็ดฟ้าทะลายโจร ขนาดต่ำ (200 มิลลิกรัม/วัน) ติดต่อกัน 3 เดือน สามารถ
ป้องกันการเกิดหวัดได้ถึง 33% แต่ถ้ามีอาการไข้ เจ็บคอ รับประทานขนาดสูง (3-6 กรัม/วัน) ติดต่อกัน 7 วัน ก็ช่วยลดอาการ
ไข้และเจ็บคอได้ เมื่อรับประทานในขนาด 3-6 ก./วัน นาน 7 วัน ทำให้อาการไข้และเจ็บคอลดลงไม่ต่างจากการใช้ยา
พาราเซตามอล นอกจากนี้ฟ้าทะลายโจรยังมีสรรพคุณอื่นๆที่มีการศึกษายืนยันชัดเจน พอจะสรุปสรรพคุณของฟ้าทะลายโจรได้ดังนี้
- ป้องกันและรักษาการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน เช่น ไข้หวัด เจ็บคอ ไซนัสอักเสบแบบไม่รุนแรง
หลอดลมอักเสบ ทอนซิลอักเสบ
- ทางเดินปัสสาวะส่วนล่างติดเชื้อ เช่น กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ต่อมลูกหมากอักเสบ
- บรรเทาอาการท้องเสียชนิดที่ไม่เกิดจากการติดเชื้อ เช่น อุจจาระไม่เป็นมูก
หรือมีเลือดปนท้องเสียเฉียบพลัน
- ถ้าเป็นแบบแคปซูลรับประทานครั้งละ 1.5-3 กรัม (2-4 แคปซูล) วันละ 4 ครั้ง
หลังอาหารและก่อนนอน
- ถ้าใช้แบบสมุนไพรสดใช้ใบและกิ่งสดล้างให้สะอาด สับเป็นท่อนสั้นๆ ประมาณ 1 กำมือ
ต้มกับน้ำ 10-15 นาที ดื่มก่อนอาหารวันละ 3 ครั้ง หรืออาจเคี้ยวสดก็ได้ใช้ครั้งละ
4-5 ใบเคี้ยววันละ 3-4 ครั้ง แต่เนื่องจากฟ้าทะลายโจรมีรสขมมาก ใครไม่ชอบรสขมก็ต้องเลี่ยง
ไปใช้วิธีอื่นแล้วหล่ะคะ
- การใช้ฟ้าทะลายโจรจะให้ผลดีและมีประสิทธิภาพสูงสุดในการแก้หวัด เจ็บคอ คือ ให้เริ่มรับประทานทันทีที่เริ่มรู้สึก
ครั่นเนื้อ ครั่นตัว ทำท่าว่าจะเป็นไข้ หรือ มีอาการเจ็บคอ จะได้ผลดีมาก โดยไม่ต้องไปใช้ยาปฏิชีวนะ ที่อาจเสี่ยงต่อ
การดื้อยา แต่หากถ้าเป็นมานานเกินกว่า 3 วัน การใช้ฟ้าทะลายโจร อาจไม่ได้ผลหรือได้ผลน้อย แบบนี้ต้องพึ่งยา
แผนปัจจุบันในการรักษาแล้วค่ะ
- ห้ามใช้ในผู้ที่มีอาการแพ้ฟ้าทะลายโจร และพืชในกลุ่ม Acanthaceae เช่น เสลดพังพอน ทองพันชั่ง
พญาวานร (ว่านง๊อก) อาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้ตั้งแต่อาการผื่นคัน ลมพิษ จนถึงอาการแพ้ขั้นรุนแรง
แบบ anaphylactic shock ถ้าให้โดยการฉีดหรือในขนาดสูง
- สตรีมีครรภ์และให้นมบุตรห้ามใช้ เนื่องจากมีผลให้ทารกในครรภ์มีรูปร่างผิดปกติได้ และมีรายงานว่าทำให้เกิดการแท้งได้
- ยังไม่มีข้อมูลการใช้ในเด็ก หากใช้ให้อยู่ในความดูแลของแพทย์
- ห้ามใช้ฟ้าทะลายโจรสำหรับแก้อาการเจ็บคอ ในกรณีต่อไปนี้ เช่น เจ็บคอเนื่องจากติดเชื้อแบคทีเรีย Streptococcus group A
ผู้ที่มีประวัติไตอักเสบเนื่องจากติดเชื้อนี้ ผู้ป่วยที่มีประวัติโรคหัวใจรูห์มาติค ผู้ที่มีอาการเจ็บคอเนื่องจากมีการติดเชื้อแบคทีเรีย และ
มีอาการรุนแรง เช่น ตุ่มหนองในคอ มีไข้สูง หนาวสั่น
- ตำรายาจีนกล่าวไว้ว่า คนที่กระเพาะ ม้ามเย็นพร่องห้ามกิน ถ้าใช้อาจเกิดอาการหน้ามืด วิงเวียน มึนงง ท้องอืด ควรหยุดยา แต่ถ้า
ต้องการใช้ให้ลดปริมาณการใช้ยาลงหรือกินยาหรือสมุนไพรฤทธิ์ร้อน เช่น ขิง ตะไคร้ กะเพราในขณะรับประทานฟ้าทะลายโจร
- หากใช้ยาฟ้าทะลายโจรติดต่อกัน 3 วัน แล้วไม่ดีขึ้นหรือยังไม่หาย หรือมีอาการรุนแรงขึ้นระหว่างใช้ควรหยุดใช้ยาและปรึกษาแพทย์
- ไม่ควรใช้ติดต่อเป็นเวลานาน เพราะฟ้าทะลายโจรเป็นสมุนไพรฤทธิ์เย็น อาจทำให้มือเท้าชา หรืออ่อนแรง
แหล่งอ้างอิง