สมุนไพรไทย ยกระดับคุณภาพชีวิตผู้ป่วยโรคเอดส์
โรคเอดส์ ถือเป็นภัยร้ายที่กำลังคุกคามและมีการแพร่ระบาดอย่างหนักในสังคมไทย และยังทำให้ผู้ที่ได้รับเชื้อทุกข์ทรมานทั้งร่างกายและจิตใจ แต่ถึงกระนั้น เราก็ยังคงมีแนวทางที่สามารถช่วยเยียวยาหรือยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย ให้ดีขึ้นได้ ด้วยยาไทยหรือสมุนไพรไทยของเรานี่เอง
สำหรับอาการผู้ติดเชื้อเอดส์ส่วนใหญ่ที่พบคือ เมื่อภูมิต้านทานร่างกายต่ำจากเชื้อไวรัส ภาวะการติดเชื้อโรคต่างๆ จึงแทรกซ้อนได้ง่าย เนื่องจากร่างกายขาดความสมดุล ซึ่งสอดคล้องตามหลักทฤษฎีการแพทย์แผนไทย ซึ่งจะใช้หลักการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม เน้นความสมดุลของธาตุในร่างกายซึ่งประกอบด้วยธาตุดิน น้ำ ลม และไฟต้องสมดุลจึงจะไม่เจ็บป่วย
การดูแลรักษาโดยศาสตร์การแพทย์แผนไทย ร่วมกับการศึกษาวิจัยสมัยใหม่ พบว่า มีสมุนไพรไทยหลายชนิดที่สามารถช่วยให้ผู้ติดเชื้อเอดส์มีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยแยกสมุนไพรออกเป็น 3 กลุ่ม คือ
1.กลุ่มสมุนไพรเพิ่มภูมิต้านทาน ได้แก่ เถาวัลย์เปรียง งานวิจัยเถาวัลย์เปรียงของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์พบว่าสามารถเพิ่ม CD4 ในผู้ติดเชื้อเอดส์ เพิ่มภูมิคุ้มกันได้เป็นอย่างดี
2.กลุ่มสมุนไพรที่ออกฤทธิ์โดยตรงกับเชื้อไวรัส ได้แก่ เม็ดมะระขี้นกซึ่งมีสารไซยาไนด์ สามารถแทรกซึมเข้าไปในเซลล์ของไวรัส ทำให้ไวรัสไม่สามารถแตกตัวออกมาได้
3.กลุ่มที่ออกฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ได้แก่ พลูคาว มีงานวิจัยพบว่า สามารถเพิ่มภูมิคุ้มกันที่ ดีแต่ต้องรับประทานให้ถูกวิธี คือ กินสด คั้นน้ำดื่ม หรือทำเป็นน้ำหมักชีวภาพ โดยนำพลูคาวหมักน้ำตาลทรายแดงกินช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันได้ ไม่ควรนำพลูคาวอบบดแห้งใส่แคปซูล เพราะน้ำมันหอมระเหยตัวสำคัญจะหายไป หากผู้ป่วยมีการท้องเสียให้ใช้ควบคู่กับฟ้าทะลายโจร เรื่องโภชนาการของผู้ป่วยโรคเอดส์ก็สำคัญ ภูมิปัญญาคนโบราณแนะนำให้รับประทานเห็ด เห็ดทุกชนิดช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน อีกทั้งเห็ดยังเปรียบเสมือนผงชูรสธรรมชาติ ทำให้อาหารอร่อยขึ้น แต่ที่สำคัญผู้ป่วยโรคเอดส์ต้องรับประทานอาหารให้หลากหลาย หากเบื่ออาหารกินข้าวไม่ได้ ให้รับประทานบอระเพ็ดแช่น้ำผึ้ง โดยนำบอระเพ็ดบุพอแตก หั่นขนาดเท่า 1 ข้อนิ้วมือ แช่น้ำผึ้ง 1 เดือน รับประทานก่อนอาหารจะช่วยให้ผู้ป่วยเจริญอาหารและรับประทานอาหารได้มากยิ่ง ขึ้น
ด้าน ภญ.ผกากรอง ขวัญข้าว รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ป่วยเอดส์ควรระมัดระวังในเรื่องการรับประทานพืชผักผลไม้ที่มีสารพิษปน เปื้อน จึงแนะให้รับประทานผักพื้นบ้าน เช่น ผักแพว หรือยอดฟักแม้ว ซึ่งผักเหล่านี้มีวิตามินเอ อีสูง ซึ่งช่วยต้านอนุมูลอิสระ จึงเหมาะอย่างยิ่งที่จะนำมารับประทานเพื่อใช้ในการดูแลผู้ป่วยเอดส์ "สำหรับปัญหาผิวหนังที่เป็นแผล ลักษณะเช่นนี้ให้ใช้สมุนไพรฟ้าทะลายโจรซึ่งมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียได้ดี โดยนำผงฟ้าทะลายโจรละลายผสมน้ำเล็กน้อย พอกเวลากลางคืนขณะนอน โดยปิดด้วยผ้ากอซปิดแผลบางๆ ช่วงกลางวันควรทาปกติไม่ต้องปิดผ้ากอซ หรือถ้าใช้ใบฟ้าทะลายโจรสด ให้นำใบมาตำผสมเหล้าขาวเล็กน้อยทาแผลได้เช่นกัน หรือใช้ว่านหางจระเข้ทาเมื่อผู้ป่วยผิวแห้ง จะเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิวหนังได้ดี"
ที่มา http://abhaiherb.com/news-activity/press-release/2329